O19
การประชุมวิชาการประมง ประจําป 2548
การเลี้ยงหอยหวาน (Babylonia areolata Link, 1807) ในกระชังในบอดิน
ลือชัย ดรุณชู และ วิวรรธน สิงหทวีศักดิ์
ศูนยวิจัยและพัฒนาประมงชายฝงจันทบุรี 165 หมูที่ 9 ต. บางกะจะ อ. เมือง
จ. จันทบุรี ๒๒๐๐๐ โทร. ๐ ๓๙๔๕ ๗๙๘๗-๘
บทคัดยอ
การเลี้ยงหอยหวาน (Babylonia areolata Link, 1807) ในกระชังในบอดิน ที่ศูนยวิจัยและพัฒนาประมงชายฝง
จันทบุรี ระหวางเดือนมกราคม 2547 ถึงเดือนพฤษภาคม 2547 เปนเวลา 16 สัปดาห โดยมีแพไมไผ ขนาด 8 x 8 เมตร
แขวนกระชัง ขนาด 1.20 x 1.20 x 0.5 เมตร จํานวน 12 ใบ ปลอยพันธุหอยหวานขนาดความยาวเฉลี่ย 1.60+0.20
เซนติเมตร ความกวางเฉลี่ย 1.09+0.13 เซนติเมตร และน้ําหนักเฉลี่ย 1.86 กรัม แบงการทดลองออกเปน 4 ความหนาแนน
คือ 300, 400, 500 และ 600 ตัวตอตารางเมตร โดยใหเนื้อปลาขางเหลืองเปนอาหาร เมื่อสิ้นสุดการทดลองพบวา การ
เจริญเติบโตดาน ความยาวของเปลือกหอยเปน 3.13+0.07, 3.02+0.04, 2.99+0.04 และ2.77+0.08 เซนติเมตร ความกวาง
ของเปลือกหอยเปน 2.07+0.01, 2.03+0.05, 1.94+0.01 และ 1.85+0.01 เซนติเมตร และน้ําหนักของหอยเปน 7.81+0.38,
7.18+0.49, 6.45+0.33 และ 5.89+0.33 กรัม ตามลําดับ มีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (P<0.05)โดยที่ความ
หนาแนน 300 ตัวตารางเมตร เจริญเติบโตดีที่สุด มีอัตราการแลกเนื้อเปน 2.82±0.20, 2.64±0.22, 2.78±0.19 และ 2.85±0.15
ซึ่งมีความแตกตางกันอยางไมมีนัยสําคัญทางสถิติ (P>0.05) แตมีผลผลิตรวมเฉลี่ย 2.74+0.12, 3.49+0.18, 3.85+0.18 และ
4.33+0.14 กิโลกรัม ซึ่งมีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (P<0.05) ที่ความหนาแนน 600 ตัวตอตารางเมตรให
ผลผลิตสูงที่สุด สวนอัตราการรอดตายเปน 99.69+0.13, 99.71+0.20, 100 และ 99.92+0.07 เปอรเซ็นต มีความแตกตางกัน
อยางไมมีนัยสําคัญทางสถิติ (P>0.05). การเลี้ยงหอยหวานในกระชังในบอดินความหนาแนน 400 ตัวตอตารางเมตรให
ผลตอบแทนสูงที่สุด
คําสําคัญ :- หอยหวาน การเลี้ยง กระชัง บอดิน
216
การประชุมวิชาการประมง ประจําป 2548
O19
Culture on Spotted Babylon (Babylonia areolata, Link 1807) by Floating Cages in Earthen Pond
Luechai Darunchu and Wiwat Singthaweesak
Chanthaburi Coastal Fisheries Research and Development Center
165 Moo 9 Bang Kha Cha, Muang District, Chanthaburi Province. 22000 Tel. 0 3945 7987-7
Abstract
The cultured of spotted babylon (Babylonia areolata Link 1807) by floating cages was done in earthen pond at
Chanthaburi Coastal Fisheries Research and Development Center during January 2004 to May 2004, for 16 weeks. The
rearing was held in 12 floating cages at size 1.20×1.20×0.5 meters were hanging on 8×8 meters size of bamboo raft. The
experiment consisted of 4 stocking densities, were 300 400 500 and 600 snails per square meter. The size of specimens
was average length about 1.60±0.20 centimeters, width about 1.09±0.13 centimeters and weight about 1.86 grams,
respectively. The growth on shell length of 4 treatments were 3.13±0.07, 3.02±0.04, 2.99±0.04 and 2.77±0.08
centimeters, shell width were 2.07±0.01, 2.03±0.05, 1.94±0.01 and 1.85±0.01 centimeters and body weight were
7.81±0.38, 7.18±0.49, 6.45±0.33 and 5.89±0.33 grams, and the revelation showed significantly difference (P<0.05), at
stocking density 300 snails per square meter gave the highest growth. The food conversation ratio were 2.82±0.20,
2.64±0.22, 2.78±0.19 and 2.85±0.15 and showed difference with non significance (P>0.05). But the total production
were 2.74±0.12, 3.49±0.18, 3.04±0.03 and 4.33±0.14 kilograms and showed difference with significance (P<0.05) and
stocking density 600 snails per square meter gave the highest total production, while the survival rate were 99.69±0.13,
99.71±0.20, 99.95±0.08 and 99.92±0.07 percentages and showed non-significantly difference (P>0.05). The cultured of
spotted Babylon at stocking density 400 snails per square meter was the highest benefit.
Key word :- Spotted Babylon Babylonia areolata Culture Floating Cages, Earthen Pond
คํานํา
หอยที่มีชื่อสามัญวาหอยหวาน หอยตุกแก หอยเทพรส หรือ Spotted Babylon จัดเปนหอยฝาเดียว ที่พบมากใน
ประเทศไทยมีอยู 2 ชนิด คือ Babylonia spirata ชนิดที่ทําการศึกษา มีชื่อวิทยาศาสตรวา Babylonia areolata Link 1807
เปนหอยที่พบมากในเขตรอน ตั้งแตไตหวันลงมา จนถึงอาวไทย หอยหวานมีการแพรกระจายตามจังหวัดชายฝงทะเล
บริ เ วณฝ ง อ า วไทย และฝ ง อั น ดามั น จั ง หวั ด ที่ มี ก ารจั บ กั น มาก คื อ ระยอง จั น ทบุ รี เพชรบุ รี ระนอง ป ต ตานี และ
นครศรีธรรมราช (นิพนธและลือชัย, 2543) เนื้อมีรสชาติดี มีผูนิยมบริโภคกันเปนจํานวนมาก ความตองการหอยหวานใน
ประเทศไทย นิยมบริโภคหอยขนาดใหญ 60-80 ตัวตอกิโลกรัม ในขณะที่ตางประเทศนิยมหอยขนาดเล็ก 80-130 ตัวตอ
กิโลกรัม (นิตยสารสัตวน้ํา, 2543) หอยหวานเปนหอยที่มีความตองการของตลาดทั้งภายในและตางประเทศ ในประเทศ
ไทยหอยหวานที่นํามาบริโภค สวนใหญเปนหอยที่จับมาจากแหลงน้ําธรรมชาติเกือบทั้งหมด (ลือชัยและเกียรติศักดิ์, 2547)
การเก็บเกี่ยวหอยหวานโดยการใชเครื่องมือประมงประเภทลอบดัก (Trap fishing gear) และเหยื่อที่นิยมใชไดแก
ปลา หรือ ปู ที่ตายแลว หรือนํามาดองเกลือ เพื่อใหมีกลิ่นดึงดูดหอยหวานใหเขามากินอาหารที่วางในลอบ หอยหวานที่จับ
ไดมีขนาดความยาวเปลือกเฉลี่ย 6.90 เซนติเมตร และน้ําหนักเฉลี่ย 46.7 กรัม โดยทั่วไปลอบหอยหวานมีปริมาณการจับที่
ไดผลผลิตคอนขางต่ํา และมีความผันแปรในแตละลอบ ในแตละวันสูงมาก (นิลนาจและอนุตร, 2541)
217
O19
การประชุมวิชาการประมง ประจําป 2548
ปจจุบันมีเกษตรกรสนใจหันมาทําการเลี้ยงหอยหวานกันมากขึ้น การเลี้ยงหอยหวานมีหลายรูปแบบ คือการเลี้ยง
ในบอคอนกรีต บอผาใบ เลี้ยงในคอกในทะเล เลี้ยงในกระชัง และเลี้ยงในบอดิน เปนตน การเลี้ยงหอยหวานในกระชังใน
บอดินเปนการเลี้ยงที่เหมาะสมตอสภาพแวดลอมชายฝงทะเล ที่น้ําทะเลมีความเค็มเปลี่ยนแปลงไมมากนัก ประมาณ 20-32
สวนในพัน เชนพื้นที่นากุงที่อยูริมฝงทะเล การเลี้ยงหอยหวานในกระชังในบอดิน จะแกปญหาเรื่องพื้นบอที่เปนดินโคลน
เชนพื้นที่เลี้ยงกุงทะเลบริเวณชายฝงทะเลที่เปนหาดโคลน แบบปากน้ําเวฬุ อําเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ทั้งนี้เนื่องจากหอย
หวานชอบพื้นดินที่เปนทราย หรือทรายปนโคลน การเลี้ยงในบอดินทําใหเก็บผลผลิตไดลําบาก และคัดขนาดยาก อัตรา
การรอดตายต่ํากวาการเลี้ยงในกระชัง
แนวความคิดในการเลี้ยงหอยหวานในกระชังในบอดิน เนื่องจากหอยหวานเปนสัตวที่ชอบอาศัยและฝงตัวในพื้น
ทราย ไมชอบอยูในดินโคลน เพราะในการกินอาหารของหอยหวานโดยการปลอยน้ํายอยออกมายอยอาหารแลวดูดกลับเขา
ไป มีการคลายเมือกออกมาติดอยูที่เทาหอยหวาน จึงจําเปนตองเดินไถบนพื้นทรายเพื่อใหเมือกหลุดออกไป ดังนั้นการเลี้ยง
หอยหวานในบอดินสวนใหญพื้นบอเปนดินโคลน ไมเหมาะกับนิสัยความเปนอยูของหอยหวาน อีกประการหนึ่งการเลี้ยง
ในบอดินมีพื้นที่กวางทําใหยากตอการจัดการ เชน การใหอาหาร การตรวจสอบการตายของหอย และการเก็บเกี่ยวผลผลิต
แตการเลี้ยงหอยในกระชังงายตอการจัดการ เชน งายตอการตรวจสอบปริมาณอาหาร การตายของหอย และมีความสะดวก
ในการเก็บเกี่ยวผลผลิตหอย
วัตถุประสงค
ศึกษาการเจริญเติบโต อัตราการรอดตาย อัตราการเปลี่ยนอาหารเปนเนื้อ (FCR) และผลผลิตของหอยหวานที่
เลี้ยงในกระชังที่ระดับความหนาแนนตาง ๆ กัน ตลอดจนตนทุนในการเลี้ยงหอยหวาน
อุปกรณและวิธีดําเนินการ
1. การเตรียมแพและกระชัง
1.1 ทําแพไมไผขนาด กวาง x ยาว เทากับ 8 x 8 เมตร จํานวน 2 แพ ตรงกลางแบงครึ่งเพื่อใชเปนทางเดินและ
แขวนกระชัง แพลอยดวยถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร ดานบนแพมีการกันแสงดวยสแลนพลาสติก ซึ่งลดแสงลงประมาณ
70 เปอรเซ็นต
1.2 กระชังสําหรับเลี้ยงหอยหวานมีขนาด กวาง x ยาว x สูง เทากับ 1.20 x 1.20 x 0.5 เมตร บุดวยอวนพลาสติก
ขนาดตา 0.5 เซนติเมตร จํานวน 12 ใบ และ บุดวยอวนพลาสติกขนาดตา 1.0 เซนติเมตร จํานวน 12 ใบ เพื่อใชสําหรับ
เปลี่ยนกระชัง หลังจากเลี้ยงหอยเปนเวลา 2 เดือน บริเวณดานลางของกระชัง บุดวยอวนมุงสีฟา ตาละเอียดขนาด 60 ชอง
ตอตารางเซนติเมตร ตรงบริเวณขอบดานลางยกสูงประมาณ 10 เซนติเมตร เพื่อใสทรายบริเวณกนกระชัง ในระยะการเลี้ยง
1-2 เดือน ใสทรายหยาบ และในระยะการเลี้ยง 3-4 เดือน จึงเปลี่ยนเปนกรวดเบอร 1 ซึ่งมีขนาดเสนผาศูนยกลาง 0.3-0.5
เซนติเมตร โดยจะแขวนกระชังไวกับแพใหจมน้ําที่ระดับผิวน้ํา
2. การเตรียมลูกพันธุหอยหวาน
นําลูกหอยหวานจากโรงเพาะฟกของศูนยวิจัยและพัฒนาประมงชายฝงจันทบุรี จํานวน 9,000 ตัว มาพักในบอ
ซีเมนตกลมขนาดเสนผาศูนยกลาง 1.0 เมตร จํานวน 12 ใบ เพื่อพักฟนใหลูกหอยมีความแข็งแรง และปรับตัวไดเปนเวลา 7
วัน จึงนําลูกหอยทั้งหมดมาคละกัน และสุมขึ้นมาวัดขนาด และชั่งน้ําหนัก จํานวน 200 ตัว หลังจากนั้นนําลูกหอยไปเลี้ยง
ตอไป ลูกหอยที่เริ่มทําการเลี้ยงมีขนาดความยาวอยูระหวาง 1.00-1.80 เซนติเมตร เฉลี่ย 1.60+0.20 เซนติเมตร ความกวาง
อยูระหวาง 0.82-1.39 เซนติเมตร เฉลี่ย 1.09+0.13 เซนติเมตร และน้ําหนักเฉลี่ย 1.86 กรัม
218
การประชุมวิชาการประมง ประจําป 2548
O19
3. การวางแผนการทดลอง
ดําเนินการทดลอง โดยแบงการทดลองออกเปน 4 ชุดการทดลอง ชุดละ 3 ซ้ํา ดังนี้
ชุดการทดลองที่ 1 เลี้ยงที่อัตราความหนาแนน 300 ตัวตอตารางเมตร (ปลอยหอย 432 ตัวตอกระชัง)
ชุดการทดลองที่ 2 เลี้ยงที่อัตราความหนาแนน 400 ตัวตอตารางเมตร (ปลอยหอย 576 ตัวตอกระชัง)
ชุดการทดลองที่ 3 เลี้ยงที่อัตราความหนาแนน 500 ตัวตอตารางเมตร (ปลอยหอย 720 ตัวตอกระชัง)
ชุดการทดลองที่ 4 เลี้ยงที่อัตราความหนาแนน 600 ตัวตอตารางเมตร (ปลอยหอย 864 ตัวตอกระชัง)
4. อาหารที่ใชเลี้ยงหอยหวาน
ในการทดลองเลี้ยงหอยหวานใหเนื้อปลาขางเหลือง (Caranx leptolepis Cur. & Val.) เปนอาหาร โดยนําปลามา
ลางใหสะอาดแลวแลเอาเฉพาะเนื้อไปใชเปนอาหารเทานั้น ในอัตราวันละ 5 %ของน้ําหนักตัว
5. การจัดการ
มีเครื่องสูบน้ําแบบทอพญานาคขนาดเสนผาศูนยกลาง 6 นิ้ว มอเตอรขนาด 7 แรงมา จํานวน 1 ตัว สูบน้ําจาก
แมน้ําจันทบุรีเขาบอเลี้ยงหอยในชวงที่น้ําขึ้นวันละ 2-3 ชั่วโมง เปนการรักษาระดับน้ําใหคงที่ระดับน้ํา 1.5-1.8 เมตร
ภายในบอดิน มีเครื่องตีน้ําชนิด 2 แขน มอเตอรขนาด 2 แรงมา จํานวน 2 ตัว จะเปดภายหลังจากใหอาหารและตอนเชา
ประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อใหน้ําในบอมีการไหลเวียนผานทุกกระชัง และมีการทําความสะอาดทรายทุก ๆ 7 วัน โดยใช
เครื่องสูบน้ําแบบจุมสูบน้ําในบอดินมาฉีดทรายบริเวณกนกระชัง และตรวจสอบการเจริญเติบโตดวยวิธีการวัดขนาดและ
ชั่งน้ําหนัก ทุก ๆ 4 สัปดาห
6. การวิเคราะหคุณภาพน้ํา
ทําการเก็บตัวอยางน้ําทุก ๆ 7 วัน โดยวัดดรรชนีคุณภาพน้ํา ดังนี้
ความเค็มน้ํา โดยใชเครื่องมือ Reflecto salinometer ยี่หอ ATAGO รุน S-Mill 100
ความเปนกรด-ดางของน้ํา (pH) โดยใชเครื่องมือ pH meter ยี่หอ WTW รุน pH 537
ออกซิเจนที่ละลายน้ํา โดยใชเครื่องมือ DO meter ยี่หอ YSI รุน Model 52 B
อัลคาไลน (Alkalinity) โดยวิธี Potentiometer titration to pre-selection pH (APHA, AWWA-WPCF, 1980)
แอมโมเนีย (NH4+) โดยวิธี Koroleff’ s indophenol blue method (APHA, AWWA-WPCF, 1980)
ไนไตรท (NO2-) โดยวิธี Shinn’ s method (Grassoff, 1976)
ไนเตรท (NO3-) โดยวิธี Cadmium reduction (Stickland and Parson, 1972)
7. การเก็บขอมูลและวิเคราะหขอมูล
7.1 การเก็บขอมูล
ทําการสุมตัวอยางหอยหวานมาทุกกระชังในปริมาณ 30 ตัวตอกระชัง นํามาวัดขนาดและชั่งน้ําหนัก แลวบันทึก
ขอมูลไว ทุก 4 สัปดาห
7.2 การวิเคราะหขอมูล
7.2.1 การเจริญเติบโต (Growth) ทําการวัดความกวาง ความยาวของเปลือกหอย และน้ําหนักของหอยหวาน
ตลอดการทดลอง
7.2.2 การคํานวณอัตราการรอดตาย (Survival Rate) ใชสูตร
Nt
× 100
S. R.
=
No
219
O19
การประชุมวิชาการประมง ประจําป 2548
S. R. = อัตราการรอดตาย (%)
Nt
= จํานวนของหอยหวานที่เหลือรอด ณ เวลา t
No
=
จํานวนของหอยหวานที่เริ่มทดลอง
7.2.3 การคํานวณอัตราการเปลี่ยนอาหารเปนเนื้อ (Food Conversion Ratio หรือ FCR) ใชสูตร
น้ําหนักอาหารที่หอยหวานกินทั้งหมด
น้ําหนักหอยหวานที่เพิ่มขึ้น
7.2.4 การคํานวณผลผลิตและผลผลิตเพิ่ม โดยการนําหอยที่เหลือทุกตัวเมื่อสิ้นสุดการทดลองมาชั่งน้ําหนัก
รวมเปนผลผลิต แลวนําน้ําหนักหอยทุกตัวมาหักออกจะเปนน้ําหนักที่เพิ่มขึ้น
ผลผลิต
=
น้ําหนักรวมสุดทายของหอยทุกตัว (Wt)
ผลผลิตเพิ่ม =
Wt - W0
W0
=
น้ําหนักรวมเริ่มตนของหอยทุกตัว
Wt
=
น้ําหนักรวมสุดทายของหอยทุกตัว
7.2.5 ทําการวิเคราะหขอมูลจากผลการทดลองเกี่ยวกับ ความยาวและความกวางเปลือก น้ําหนักตัว อัตรา
การรอดตาย อัตราการแลกเนื้อ (FCR) และผลผลิตรวมของหอยหวานแตละกระชัง นํามาวิเคราะหผลทางสถิติ โดยใช
วิธีการทดสอบหาความแปรปรวน (Analysis of Variance) ของกลุมขอมูล ดวยวิธี F-Test ที่ระดับความเชื่อมั่น 95 %
(P=0.05) เพื่อเปรียบเทียบคาเฉลี่ยของแตละชุดการทดลอง หากพบวามีความแตกตางกันทางสถิติ จะใชวิธี Duncan’ s New
Multiple Range Test ที่ระดับความมั่นใจ 95% (P=0.05) ทั้งนี้เพื่อเปรียบเทียบผลของคูทดลอง (จรัญ, 2523)
8. สถานที่และระยะเวลาที่ใชในการศึกษา
ดําเนินการทดลองในบอดินของศูนยวิจัยและพัฒนาประมงชายฝงจันทบุรี ทําการทดลองใชเวลานาน 16 สัปดาห
(ประมาณ 4 เดือน) โดยเริ่มทดลองในเดือน มกราคม 2547 ไปจนถึง พฤษภาคม 2547
FCR
=
ผลการทดลอง
1. การเจริญเติบโต
จากการทดลองเลี้ ย งหอยหวาน ในกระชั ง ในบ อ ดิ น โดยใช พั น ธุ ห อยที่ มี ค วามยาวเปลื อ กเฉลี่ย 1.60±0.02
เซนติเมตร ดวยความหนาแนน 300, 400, 500 และ 600 ตัวตอตารางเมตร พบวา เมื่อสิ้นสุดการทดลองหอยหวานที่เลี้ยงมี
การเจริญ เติ บ โต ดา นความยาวของเปลื อ กเฉลี่ย เป น 3.13±0.07, 3.02±0.04, 2.99±0.04 และ 2.77±0.08 เซนติ เ มตร
ตามลําดับ (ตารางที่ 1 และรูปที่ 1) เมื่อนําความยาวของเปลือกหอยหวานไปวิเคราะหผลทางสถิติพบวา ที่ทุกความ
หนาแนนมีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (P<0.05) ทั้งหมด โดยหอยหวานที่เลี้ยงมีความยาวของเปลือกใน
สัปดาหที่ 4 ของการทดลองเปน 2.20±0.04, 2.26±0.03, 2.22±0.07 และ 2.10±0.04 เซนติเมตร พบวาที่ทุกความหนาแนน
ไมมีความแตกตางกัน (P>0.05) สวนในสัปดาหที่ 8 ของการทดลองความยาวเปลือกเพิ่มขึ้นเปน 2.72±0.12, 2.71±0.06,
2.67±0.04 และ 2.57±0.04 เซนติเมตร ซึ่งมีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (P<0.05) โดยที่ความหนาแนน 300
กับ 400 ตัวตอตารางเมตร ที่ความหนาแนน 400 กับ 500 ตัวตอตารางเมตร และ ที่ความหนาแนน 500 กับ 600 ตัวตอตาราง
เมตร ไมมีความแตกตางกัน (P>0.05) ที่เหลือนอกจากนี้มีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทั้งหมด (P<0.05) ในสัปดาหที่
12 ของการทดลองความยาวเปลือกมีคาเปน 3.00±0.04, 2.93±0.12, 2.82±0.01 และ 2.71±0.06 เซนติเมตร ซึ่งที่ทุกความ
หนาแนนมีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (P<0.05)
220
O19
การประชุมวิชาการประมง ประจําป 2548
ตารางที่ 1 ความยาวของเปลือกหอยหวานที่เลี้ยงในกระชังในบอดิน ที่ความหนาแนน 4 ระดับ เปนเวลา 16 สัปดาห
(หนวย :- เซนติเมตร)
ระดับ
การทดลอง
ระยะเวลาในการเลี้ยง
ความหนาแนน
ซ้ําที่
เริ่มทดลอง สัปดาหที่ 4
สัปดาหที่ 8
สัปดาหที่ 12 สัปดาหที่ 16
1
1.60±0.20 2.17±0.23
2.76±0.26
3.04±0.25
3.05±0.33
300 ตัว/ตร.ม.
2
1.60±0.20 2.25±0.26
2.59±0.28
2.96±0.27
3.18±0.33
3
1.60±0.20 2.18±0.42
2.81±0.21
3.00±0.18
3.15±0.32
a
a
a
2.72±0.12
3.00±0.04
3.13±0.07a
เฉลี่ย
1.60
2.20±0.04
1
1.60±0.20 2.29±0.36
2.78±0.21
3.04±0.15
2.98±0.32
400 ตัว/ตร.ม.
2
1.60±0.20 2.24±0.26
2.69±0.20
2.81±0.23
3.05±0.24
3
1.60±0.20 2.25±0.27
2.66±0.22
2.95±0.28
3.04±0.30
a
ab
b
2.71±0.06
2.93±0.12
3.02±0.04b
เฉลี่ย
1.60
2.26±0.03
1
1.60±0.20 2.20±0.23
2.70±0.24
2.82±0.25
3.02±0.31
500 ตัว/ตร.ม.
2
1.60±0.20 2.17±0.30
2.69±0.25
2.81±0.23
3.00±0.25
3
1.60±0.20 2.30±0.29
2.63±0.23
2.82±0.25
2.95±0.27
a
bc
c
2.67±0.04
2.82±0.01
2.99±0.04c
เฉลี่ย
1.60
2.22±0.07
1
1.60±0.20 2.06±0.29
2.59±0.27
2.64±0.27
2.77±0.28
600 ตัว/ตร.ม.
2
1.60±0.20 2.11±0.23
2.52±0.24
2.73±0.29
2.85±0.28
3
1.60±0.20 2.13±0.29
2.60±0.29
2.75±0.31
2.70±0.31
2.57±0.04c
2.71±0.06d
2.77±0.08d
เฉลี่ย
1.60
2.10±0.04a
หมายเหตุ ตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ยกกําลังตางกันในแนวตั้ง แสดงวามีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (P<0.05)
3.2
ความยาวของเปลือกหอยหวาน (ซ.ม.)
3.0
2.8
2.6
2.4
ความหนาแนน
300 ตัว/ตร.ม.
2.2
400 ตัว/ตร.ม.
2.0
500 ตัว/ตร.ม.
600 ตัว/ตร.ม.
1.8
1.6
เริ่มตน
4 สัปดาห
8 สัปดาห
12 สัปดาห
16 สัปดาห
เวลาในการเลี้ยง
รูปที่ 1 ความยาวของเปลือกหอยหวานที่เลี้ยงในกระชังในบอดิน ที่ความหนาแนน 4 ระดับ เปนเวลา 16 สัปดาห
221
O19
การประชุมวิชาการประมง ประจําป 2548
ในดานความกวางของเปลือกเฉลี่ยจาก 1.08±0.13 มีการเจริญเติบโต เมื่อเสร็จสิ้นการทดลองเปน 2.07±0.01,
2.03±0.05, 1.94±0.01 และ 1.85±0.01 เซนติเมตร เมื่อนําความกวางของเปลือกหอยหวานไปวิเคราะหผลทางสถิติพบวา ที่
ทุกความหนาแนนมีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (P<0.05) ทั้งหมด ตามลําดับ ในสัปดาหที่ 4 ความกวางของ
เปลือกเทากับ 1.46±0.02, 1.53±0.02, 1.45±0.06 และ 1.41±0.04 เซนติเมตร โดยนําผลไปวิเคราะหทางสถิติพบวาไมมีความ
แตกต า งกั น (P>0.05) ในสั ป ดาหที่ 8 ความกวา งเปลื อ กเพิ่ ม เป น 1.77±0.04, 1.75±0.02, 1.73±0.03 และ 1.68±0.04
เซนติเมตร ซึ่งมีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (P<0.05) โดยที่ความหนาแนน 300, 400 กับ 500 ตัวตอตาราง
เมตร และ ที่ความหนาแนน 500 กับ 600 ตัวตอตารางเมตร ไมมีความแตกตางกัน (P>0.05) ที่เหลือนอกจากนี้มีความ
แตกต างกัน อยางมีนัย สําคัญ ทั้ง หมด (P<0.05) ในสัปดาหที่ 12 ความกวางของเปลือกเท ากับ 1.95±0.03, 1.90±0.08,
1.82±0.03 และ1.77±0.02 เซนติเมตร และมีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (P<0.05) โดยที่ความหนาแนน 300
กับ 400 ตัวตอตารางเมตร ที่ความหนาแนน 400 กับ 500 ตัวตอตารางเมตร และ ที่ความหนาแนน 500 กับ 600 ตัวตอตาราง
เมตร ไมมีความแตกตางกัน (P>0.05) นอกจากนั้นมีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทั้งหมด (P<0.05) และ (ตารางที่ 2
และรูปที่ 2)
ความกวางของเปลือกหอยหวาน (ซ.ม.)
2.2
2.0
1.8
ความหนาแนน
1.6
300 ตัว/ตร.ม.
1.4
400 ตัว/ตร.ม.
500 ตัว/ตร.ม.
1.2
600 ตัว/ตร.ม.
1.0
เริ่มตน
4 สัปดาห
8 สัปดาห
เวลาในการเลี้ยง
12 สัปดาห
16 สัปดาห
รูปที่ 2 ความกวางของเปลือกหอยหวานที่เลี้ยงในกระชังในบอดิน ที่ความหนาแนน 4 ระดับ เปนเวลา 16 สัปดาห
222
O19
การประชุมวิชาการประมง ประจําป 2548
ตารางที่ 2 ความกวางของเปลือกหอยหวานที่เลี้ยงในกระชังในบอดิน ที่ความหนาแนน 4 ระดับ เปนเวลา 16 สัปดาห
(หนวย :- เซนติเมตร)
ระดับ
การทดลอง
ระยะเวลาในการเลี้ยง
ความหนาแนน
300 ตัว/ตร.ม.
ซ้ําที่
สัปดาหที่ 12
สัปดาหที่ 16
1.44±0.15
1.80±0.17
1.97±0.13
2.08±0.21
2
1.08±0.13
1.46±0.19
1.72±0.15
1.91±0.17
2.07±0.15
3
1.08±0.13
1.47±0.14
1.78±0.13
1.97±0.19
2.07±0.16
1.08
1.46±0.02a
1.77±0.04a
1.95±0.03a
2.07±0.01a
1
1.08±0.13
1.55±0.18
1.77±0.13
1.96±0.15
2.03±0.16
2
1.08±0.13
1.52±0.13
1.73±0.13
1.81±0.13
1.98±0.11
3
1.08±0.13
1.52±0.18
1.74±0.17
1.93±0.16
2.07±0.18
1.08
1.53±0.02a
1.75±0.02a
1.90±0.08ab
2.03±0.05ab
1
1.08±0.13
1.45±0.14
1.73±0.15
1.79±0.15
1.93±0.21
2
1.08±0.13
1.50±0.21
1.75±0.17
1.85±0.14
1.95±0.14
3
1.08±0.13
1.39±0.17
1.70±0.14
1.81±0.15
1.95±0.15
1.08
1.45±0.06a
1.73±0.03ab
1.82±0.03bc
1.94±0.01b
1
1.08±0.13
1.39±0.18
1.71±0.15
1.76±0.16
1.86±0.21
2
1.08±0.13
1.39±0.15
1.64±0.15
1.76±0.16
1.85±0.16
3
1.08±0.13
1.47±0.16
1.69±0.16
1.80±0.16
1.84±0.16
1.08
1.41±0.04a
1.68±0.04b
1.77±0.02c
1.85±0.01c
เฉลี่ย
600 ตัว/ตร.ม.
สัปดาหที่ 8
1.08±0.13
เฉลี่ย
500 ตัว/ตร.ม.
สัปดาหที่ 4
1
เฉลี่ย
400 ตัว/ตร.ม.
เริ่มทดลอง
เฉลี่ย
หมายเหตุ ตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ยกกําลังตางกันในแนวตั้ง แสดงวามีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (P<0.05)
การเจริญเติบโตในดานน้ําหนักตัวเฉลี่ยโดยเริ่มจาก 1.86 กรัม เมื่อเสร็จการทดลองในสัปดาหที่ 16 ของหอย
หวานมีน้ําหนักเปน 7.81±0.38, 7.18±0.49, 6.45±0.33 และ 5.89±0.33 กรัม และเมื่อนําน้ําหนักตัวของหอยหวานไป
วิเคราะหผลทางสถิติพบวา ที่ทุกความหนาแนนมีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (P<0.05) โดยในสัปดาหที่ 4
พบวาทุกความหนาแนนมีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (P<0.05) ยกเวนที่ความหนาแนน 400 กับ 500 ตัวตอ
ตารางเมตร ซึ่งมีความแตกตางกันอยางไมมีนัยสําคัญ (P>0.05) สัปดาหที่ 8 ที่ทุกความหนาแนนมีความแตกตางกันอยางมี
นัยสําคัญทางสถิติ (P<0.05) ยกเวนความหนาแนน 300 กับ 400 ตัวตอตารางเมตร ซึ่งมีความแตกตางกันอยางไมมีนัยสําคัญ
(P>0.05) และสัปดาหที่ 12 มีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (P<0.05) ที่ความหนาแนน 300 กับ 400 ตัวตอ
ตารางเมตร และ ที่ความหนาแนน 500 กับ 600 ตัวตอตารางเมตร มีความแตกตางกันอยางไมมีนัยสําคัญทางสถิติ (P>0.05)
(ตารางที่ 3 และรูปที่ 3)
223
O19
การประชุมวิชาการประมง ประจําป 2548
ตารางที่ 3 น้ํ า หนั ก ตั ว ของหอยหวานที่ เ ลี้ ย งในกระชั ง ในบ อ ดิ น ที่ ค วามหนาแน น 4 ระดั บ เป น เวลา 16 สั ป ดาห
(หนวย :- กรัม)
ระดับ
การทดลอง
ระยะเวลาในการเลี้ยง
ความหนาแนน
ซ้ําที่
เริ่มทดลอง สัปดาหที่ 4
สัปดาหที่ 8
สัปดาหที่ 12 สัปดาหที่ 16
1
1.86
2.55±0.80
4.75±1.21
7.39±1.24
8.09±1.71
300 ตัว/ตร.ม.
2
1.86
2.91±0.88
4.15±1.09
6.91±1.35
7.97±1.50
3
1.86
3.08±1.00
5.00±1.23
6.56±1.18
7.38±1.40
เฉลี่ย
1.86
2.85±0.27a
4.63±0.44a
6.95±0.42a
7.81±0.38a
1
1.86
3.68±1.02
5.05±0.94
6.94±0.87
6.91±1.56
400 ตัว/ตร.ม.
2
1.86
3.67±0.70
4.30±1.29
6.09±0.86
6.88±1.16
3
1.86
3.28±1.32
4.16±1.22
7.24±1.26
7.75±1.56
4.50±0.48a
6.76±0.60a
7.18±0.49b
เฉลี่ย
1.86
3.54±0.03b
1
1.86
3.42±0.83
3.81±1.12
6.33±1.21
6.73±1.47
500 ตัว/ตร.ม.
2
1.86
3.33±0.79
4.27±1.29
5.82±1.18
6.53±1.20
3
1.86
3.56±1.27
4.20±0.95
5.19±1.24
6.08±1.28
เฉลี่ย
1.86
3.44±0.12b
4.09±0.25b
5.78±0.57b
6.45±0.33c
1
1.86
2.37±0.69
3.67±1.14
5.57±1.08
5.89±1.46
600 ตัว/ตร.ม.
2
1.86
2.78±1.06
3.62±1.10
5.59±1.39
6.21±1.33
3
1.86
2.79±100
3.91±0.92
5.88±1.48
5.56±1.20
c
c
b
3.73±0.16
5.68±0.17
5.89±0.33d
เฉลี่ย
1.86
2.65±0.24
หมายเหตุ ตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ยกกําลังตางกันในแนวตั้ง แสดงวามีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (P<0.05)
8.0
น้ําหนักเฉลี่ยของหอยหวาน (ซ.ม.)
7.0
6.0
5.0
ความหนาแนน
4.0
300 ตัว/ตร.ม.
3.0
400 ตัว/ตร.ม.
2.0
600 ตัว/ตร.ม.
500 ตัว/ตร.ม.
1.0
เริ่มตน
4 สัปดาห
8 สัปดาห
ระยะเวลาเลี้ยง
12 สัปดาห
16 สัปดาห
รูปที่ 3 น้ําหนักตัวของหอยหวานที่เลี้ยงในกระชังในบอดิน ที่ความหนาแนน 4 ระดับ เปนเวลา 16 สัปดาห
224
O19
การประชุมวิชาการประมง ประจําป 2548
2. อัตราการรอดตาย
อัตราการรอดตายของหอยหวานที่เลี้ยงในกระชังในบอดินที่ความหนาแนน 4 ระดับ เปนระยะเวลา 16 สัปดาห
ปรากฏวาตลอดการเลี้ยงในสัปดาหที่ 4 8 และ 12 หอยหวานไมมีการตายเลย ยกเวนในสัปดาหที่ 16 มีจํานวนรอดตายของ
หอยหวานที่เลี้ยงเฉลี่ย 430.67±0.58, 574.33±1.15, 719.67±0.58 และ 863.33±0.58 ตัว คิดเปนอัตราการรอดตายได รอยละ
99.69±0.13, 99.71±0.20, 99.95±0.08 และ 99.92±0.07 ตามลําดับ เมื่อนํามาวิเคราะหผลทางสถิติ ปรากฏวาไมมีความ
แตกตางกันอยาง (P>0.05) ตารางที่ 4 และรูปที่ 4
ตารางที่ 4 จํานวนที่เหลือรอด และอัตราการรอดตายของหอยหวานที่เลี้ยงในกระชังในบอดินที่ความนาแนน 4 ระดับ เปน
ระยะเวลา 16 สัปดาห (หนวย :- เปอรเซ็นต)
ความ การทดลอง
ระยะเวลาในการเลีย้ ง
ซ้ําที่ เริ่มทดลอง
หนาแนน
สัปดาหที่ 4
สัปดาหที่ 8
สัปดาหที่ 12
(ตัว/ตร.ม.)
จํานวน จํานวน อัตรารอด จํานวน อัตรารอด จํานวน อัตรารอด
1
432
432
100
432
100
432
100
300
2
432
432
100
432
100
432
100
3
432
432
100
432
100
432
100
เฉลี่ย
432
432
100
432
100
432
100
1
576
576
100
576
100
576
100
400
2
576
576
100
576
100
576
100
3
576
576
100
576
100
576
100
เฉลี่ย
576
576
100
576
100
576
100
1
720
720
100
720
100
720
100
500
2
720
720
100
720
100
720
100
3
720
720
100
720
100
720
100
เฉลี่ย
720
720
100
720
100
720
100
1
864
864
100
864
100
864
100
600
2
864
864
100
864
100
864
100
3
864
864
100
864
100
864
100
เฉลี่ย
864
864
100
864
100
864
100
สัปดาหที่ 16
จํานวน
อัตรารอด
431
99.77
430
99.54
431
99.77
430.67±0.58 99.69±0.13 a
575
99.83
575
99.83
573
99.48
574.33±1.15 99.71±0.20 a
720
100.00
720
100.00
719
99.86
719.67±0.58 99.95±0.08 a
863
99.88
863
99.88
864
100.00
863.33±0.58 99.92±0.07 a
หมายเหตุ ตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ยกกําลังเหมือนกันในแนวตั้ง แสดงวามีความแตกตางกันอยางไมมีนัยสําคัญทางสถิติ
(P<0.05)
อัตราการรอดตายของหอยหวาน (เปอรเซนต)
100.0
99.9
99.8
99.7
99.6
99.5
ความหนาแนน
300 ตัว/ตร.ม.
400 ตัว/ตร.ม.
500 ตัว/ตร.ม.
600 ตัว/ตร.ม.
เริ่มตน
4 สัปดาห
8 สัปดาห
12 สัปดาห
16 สัปดาห
ระยะเวลา
รูปที่ 4 อัตราการรอดตายของหอยหวานที่เลี้ยงในกระชังในบอดินที่ความหนาแนน 4 ระดับ เปนเวลา 16 สัปดาห
225
O19
การประชุมวิชาการประมง ประจําป 2548
3. อัตราการเปลี่ยนอาหารเปนเนื้อ (FCR)
ผลการศึกษาอัตราการเปลี่ยนอาหารเปนเนื้อ หรือ อัตราการแลกเนื้อ (FCR) ของหอยหวานที่เลี้ยงในกระชังในบอ
ดินที่ความหนาแนน 300 400 500 และ 600 ตัวตอตารางเมตร เปนระยะเวลานาน 16 สัปดาห ปรากฏวา มีอัตราการแลกเนื้อ
เฉลี่ย เปน 2.82±0.20, 2.64±0.22, 2.78±0.19 และ 2.85±0.15 ตามลําดับ เมื่อนําผลมาวิเคราะหทางสถิติ พบวาอัตราการแลก
เนื้อมีความแตกตางกันอยางไมมีนัยสําคัญทางสถิติ (P>0.05) (ตารางที่ 5 และรูปที่ 5)
อัตราการเปลี่ยนอาหารเปนเนื้อ
ตารางที่ 5 อัตราการเปลี่ยนอาหารเปนเนื้อ (FCR) ของหอยหวานที่เลี้ยงในกระชังในบอดิน ที่ความหนาแนน 4 ระดับ เปน
เวลานาน 16 สัปดาห
การทดลอง
ความหนาแนน
ตัวชี้วัด
ซ้ําที่
300 ตัว/ตร.ม.
400 ตัว/ตร.ม.
500 ตัว/ตร.ม.
600 ตัว/ตร.ม
1
2.72
2.54
2.79
2.94
FCR
2
2.70
2.90
2.59
2.68
3
3.05
2.49
2.97
2.94
เฉลี่ย
2.82±0.20 a
2.64±0.22 a
2.78±0.19 a
2.85±0.15 a
หมายเหตุ ตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ยกกําลังเหมือนกันในแนวนอน แสดงวามีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ
(P<0.05)
3.0
2.5
2.0
1.5
1.0
0.5
0.0
300 ตัว/ตร.ม.
400 ตัว/ตร.ม.
500 ตัว/ตร.ม.
600 ตัว/ตร.ม.
ความหนาแนน
รูปที่ 5 อัตราการเปลี่ยนอาหารเปนเนื้อ (FCR) ของหอยหวานที่เลี้ยงในกระชังในบอดินที่ความหนาแนน 4 ระดับ เปนเวลา
16 สัปดาห
4. ผลผลิตและผลผลิตเพิ่ม
ผลผลิตของหอยหวานที่เลี้ยงในกระชังในบอดิน ที่ความหนาแนน 4 ระดับ เปนเวลานาน 16 สัปดาห ไดผลผลิต
เฉลี่ย ดังนี้ 2.74±0.12, 3.49±0.18, 3.85±0.18 และ 4.33±0.14 กิโลกรัมตอกระชัง ตามลําดับ ซึ่งมีความแตกตางกันอยางมี
นัยสําคัญทางสถิติ (P<0.05) ที่ทุกความหนาแนน (ตารางที่ 6 และรูปที่ 6)
226
O19
การประชุมวิชาการประมง ประจําป 2548
ผลผลิตหอยหวาน (ก.ก.)
ตารางที่ 6 ผลผลิ ต ของหอยหวานที่ เ ลี้ ย งในกระชั ง ในบ อ ดิ น ที่ ค วามหนาแน น 4 ระดั บ เป น ระยะเวลา 16 สั ป ดาห
(หนวย :-กิโลกรัม)
การทดลอง
ความหนาแนน
ตัวชี้วัด
ซ้ําที่
300 ตัว/ตร.ม.
400 ตัว/ตร.ม.
500 ตัว/ตร.ม.
600 ตัว/ตร.ม
1
2.82
3.54
3.82
4.13
ผลผลิต
2
2.79
3.29
4.04
4.47
3
2.60
3.64
3.68
4.20
a
b
c
3.49±0.18
3.85±0.18
4.33±0.14d
เฉลี่ย
2.74±0.12
หมายเหตุ ตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ยกกําลังตางกันในแนวนอน แสดงวามีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ
(P<0.05)
4.5
4.0
3.5
3.0
2.5
2.0
1.5
1.0
0.5
0.0
300 ตัว/ตร.ม.
400 ตัว/ตร.ม.
500 ตัว/ตร.ม.
600 ตัว/ตร.ม.
ความหนาแนน
รูปที่ 6 ผลผลิตของหอยหวานที่เลี้ยงในกระชังในบอดินที่ความหนาแนน 4 ระดับ เปนระยะเวลา 16 สัปดาห
ผลผลิตเพิ่มและมีผลผลิตที่เพิ่มขึ้นเปน 1.93±0.12, 2.42±0.18, 2.51±0.18 และ 2.66±0.18 กิโลกรัม ซึ่งมีความ
แตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (P<0.05) โดย น้ําหนักเพิ่มที่ความหนาแนน 300 ตัวตอตารางเมตร กับความหนาแนน
อื่น ๆ มีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (P<0.05) สวนที่ความหนาแนน 400 500 และ 600 ตัวตอตารางเมตร ไม
มีความแตกตางกัน (P>0.05) (ตารางที่ 7 และรูปที่ 7)
ตารางที่ 7 ผลผลิ ต เพิ่ ม ของหอยหวานที่ เ ลี้ ย งในกระชั ง ในบ อ ดิ น ที่ ค วามหนาแน น 4 ระดั บ เป น เวลา 16 สั ป ดาห
(หนวย :- กิโลกรัม)
การทดลอง
ความหนาแนน
ตัวชี้วัด
ซ้ําที่
300 ตัว/ตร.ม.
400 ตัว/ตร.ม.
500 ตัว/ตร.ม.
600 ตัว/ตร.ม
1
2.02
2.47
2.48
2.52
ผลผลิต
2
1.99
2.22
2.70
2.86
3
1.80
2.57
2.34
2.59
b
a
a
เฉลี่ย
1.93±0.12
2.42±0.18
2.51±0.18
2.66±0.18 a
หมายเหตุ ตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ยกกําลังตางกันในแนวนอน แสดงวามีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ
(P<0.05)
227
O19
การประชุมวิชาการประมง ประจําป 2548
ผลผลิตเพิ่มของหอยหวาน (ก.ก.)
3.0
2.5
2.0
1.5
1.0
0.5
0.0
300 ตัว/ตร.ม.
400 ตัว/ตร.ม.
500 ตัว/ตร.ม.
600 ตัว/ตร.ม.
ความหนาแนน
รูปที่ 7 ผลผลิตเพิ่มของหอยหวานที่เลี้ยงในกระชังในบอดิน ที่ความหนาแนน 4 ระดับ เปนเวลา 16 สัปดาห
5. คุณภาพน้ํา
คุณภาพน้ําในบอทดลอง มีความเค็มอยูในชวง 22-38 สวนในพัน เฉลี่ย 32.88±2.89 สวนในพันสวน อุณหภูมิน้ํา
อยูในชวง 27-36 องศาเซลเซียส เฉลี่ย 31.88±2.89 องศาเซลเซียส ความขุนใสของน้ํา อยูในชวง 40-140 เซนติเมตร เฉลี่ย
94.71±37.93 เซนติเมตร ปริมาณออกซิเจนละลายน้ํา อยูในชวง 3.9-8.0 มิลลิกรัมตอลิตร เฉลี่ย 6.46±0.88 มิลลิกรัมตอลิตร
ความเปนกรด-ดางของน้ําอยูในชวง 8.0-7.2 เฉลี่ย 7.71±0.20 ความเปนดางของน้ํา อยูในชวง 43-98 มิลลิกรัมตอลิตร เฉลี่ย
82.35±12.79 มิ ล ลิ ก รั ม ต อ ลิ ต ร ปริ ม าณแอมโมเนี ย อยู ใ นช ว ง 0.0139-0.4766 มิ ล ลิ ก รั ม ต อ ลิ ต ร เฉลี่ ย 0.0910±0.1074
มิลลิกรัมตอลิตร ปริมาณไนไตรทอยูในชวง 0.0006-0.0078 มิลลิกรัมตอลิตร เฉลี่ย 0.0044±0.0021 มิลลิกรัมตอลิตร และ
ปริมาณฟอสเฟต อยูในชวง 0-0.0228 มิลลิกรัมตอลิตร เฉลี่ย 0.0046±0.0061 มิลลิกรัมตอลิตร (ตารางที่ 9 และรูปที่ 8)
ตารางที่ 9 คุณภาพน้ําในบอดินที่ใชเลี้ยงหอยหวานในกระชัง เปนระยะเวลา 16 สัปดาห
ตัวชี้วัด
ตัวชี้วัดคุณภาพน้ํา
ความเค็ม
อุณหภูมิน้ํา ความขุนใส
DO
pH
Alkaline
แอมโมเนีย
ไนไตรท
ฟอสเฟต
(ม.ก/ลิตร)
(ม.ก/ลิตร)
(ม.ก/ลิตร)
(ม.ก/ลิตร)
(สวนในพัน)
(๐ซ)
(ซ.ม)
(ม.ก/ลิตร)
คาสูงสุด
38
36
140
8.0
8.0
98
0.4766
0.0078
0.0228
คาต่ําสุด
22
27
40
3.9
7.2
43
0.0139
0.0006
0
คาเฉลีย่
32.88±2.89 31.88±2.89 94.71±37.93
6.46±0.88 7.71±0.20 82.35±12.79 0.0910±0.1074 0.0044±0.0021 0.0046±0.0061
6. ตนทุนและผลตอบแทน
การเลี้ยงหอยหวานในกระชังในบอดินที่ความหนาแนน 4 ระดับ ๆ ละ 3 กระชัง เปนระยะเวลา 4 เดือน พบวามี
ตนทุนทั้งหมด คือ 6203.55, 6311.43, 6406.44 และ 6502.23 บาท แบงเปนคาลงทุน (ตนทุนคงที่) ทั้งหมด เปน 19,500
บาท แบงออกเปนชุดการทดลองละ 4,875 บาท คาเสื่อมราคาคิดโดยวิธีเสนตรงใหมูลคาซากเปนศูนยเมื่อหมดอายุการใช
งาน โดยกําหนดใหตนทุนคงที่มีอายุการใชงาน 3 ป เลี้ยงปละ 2 ครั้ง คาเสื่อมราคาเปน 812.5 บาท คาดําเนินการ (ตนทุน
ผันแปร) รวม เปน 1,328.55, 1,436.43, 1,531.44 และ 1,627.23 บาท ตามลําดับ เมื่อวิเคราะหตนทุนและผลตอบแทนของ
การเลี้ยงหอยหวานในกระชังในบอดิน พบวา ที่ราคาหอยตามขนาด 128.04, 139.28,155.04 และ 169.78 ตัวตอกิโลกรัม
ราคาจําหนาย 350, 325, 300 และ 275 บาทตอกิโลกรัม คิดเปนรายไดสุทธิ 2,877.00, 3,402.75, 3,465.00 และ 3,572.25
228
O19
การประชุมวิชาการประมง ประจําป 2548
บาท คิดเปนกําไร 735.95, 1,150.82, 1,121.06 และ 1,132.52 บาท คิดเปนกําไรตอหนวยน้ําหนัก เทากับ 89.53, 109.92,
97.06 และ 87.18 บาทตอกิโลกรัม (ตารางที่ 8)
8.0
7.5
7.5
7.0
7.0
6.5
6.5
6.0
6.0
5.5
5.5
5.0
5.0
4.5
4.5
ความเปนกรด-ดาง
4.0
3.5
3.5
1
2
3
4
5
6
7
8
สัปดาหที่
9
10
150
130
130
110
110
90
90
70
70
50
11
12
13
14
15
16
ก. ความเปนกรด-ดาง และปริมาณออกซิเจนละลายน้ํา
50
ความเปนดาง
ความขุนใส
4.0
ปริมาณออกซิเจนละลายน้ํา
เริ่ม
150
30
30
เริ่ม
1
2
3
4
5
6
7
8
สัปดาหที่
9
10
11
12
13
14
15
16
ข. ความเปนดางและความขุนใสของน้ํา
229
ความขุนใสของน้ํา (เซนติเมตร)
8.5
8.0
ความเปนดาง (มก./ลิตร)
8.5
ปริมาณออกซิเจนละลายน้ํา (มก./ลิตร)
ความเปนกรดดาง
ตารางที่ 8 ตนทุนและผลตอบแทนของการเลี้ยงหอยหวาน ที่ 4 ความหนาแนน เปนเวลา 4 เดือน(รวม 3 กระชัง)
ความหนาแนน (ตัวตอตารางเมตร)
รายการ
300
400
500
600
1. คาใชจาย (ตนทุน)
1.1 คาลงทุน (ตนทุนคงที่) (บาท)
4,875
4,875
4,875
4,875
- คาสรางแพไมไผ 8.0×8.0 เมตร (บาท)
1,250
1,250
1,250
1,250
- คากระชังโครง PVC =1.2×1.2×0.5 เมตร : 3 กระชัง(บาท) 3,000
3,000
3,000
3,000
- คาอุปกรณฟารม : เครื่องสูบน้ําลางทรายพื้นกระชัง (บาท) 625
625
625
625
812.5
812.5
812.5
812.5
- คาเสื่อมราคา คงที่ อายุ 3 ป เลี้ยงปละ 2 ครั้ง (บาท)
1,328.55
1.2 คาดําเนินงาน (ตนทุนผันแปร)
1,436.43
1,531.44 1,627.23
- อัตราการปลอยกระชังละ (ตัว/กระชัง)
432
576
720
864
- อัตราการปลอยรุนละ (ตัว/3 กระชัง)
648
864
1080
1296
- คาพันธุหอยหวาน (ตัวละ 50 สต.) (บาท)
216
288
360
432
- ปริมาณอาหารที่หอยกิน (กิโลกรัม)
16.35
19.11
20.88
22.71
- คาอาหาร (ปลาขางเหลือง 13 บาท/กก.)
212.55
248.43
271.44
295.23
- คาปูนขาว (บาท)
100
100
100
100
- คาไฟฟาและน้ํามันเชื้อเพลิง (บาท)
300
300
300
300
- คาจางแรงงาน 1 คน (บาท)
500
500
500
500
รวมคาใชจายทั้งหมด (ตนทุนผันแปร+คาเสื่อมราคา)
2,141.05
2,251.93
2,343.94 2,439.73
2. รายรับ
2.1 ขนาดของหอย (ตัว/กิโลกรัม)
128.04
139.28
155.04
169.78
2.2 ผลผลิต (รวม 3 กระชัง) กิโลกรัม
8.22
10.47
11.55
12.99
2.3 ราคาผลผลิต (บาท/กิโลกรัม)
350
325
300
275
3,402.75
3,465.00 3,572.25
2.4 ผลตอบแทนจากการจําหนายหอยหวาน (บาท)
2,877.00
3. กําไร
3.1 กําไรสุทธิ (บาท)
735.95
1,150.82
1,121.06 1,132.52
3.2 กําไรสุทธิ (บาท/กิโลกรัม)
89.53
109.92
97.06
87.18
การประชุมวิชาการประมง ประจําป 2548
38
36
36
34
34
32
32
30
30
28
28
26
26
0.025
24
ฟอสเฟต
0.020
24
อุณหภูมิน้ํา
22
ความเค็ม
20
1
2
3
4
5
6
7
8
สัปดาหที่
9
0.020
ไนไตรท
0.015
0.015
0.010
0.010
0.005
0.005
22
20
เริ่ม
0.025
10
11
12
13
14
15
0.000
16
0.000
เริ่ม
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
สัปดาหที่
ค. อุณหภูมิ และความเค็มของน้ํา
ง. ปริมาณฟอสเฟตและปริมาณไนไตรทละลายน้ํา
0.50
0.45
ปริมาณแอมโมเนีย (มก./ลิตร)
0.40
0.35
0.30
0.25
0.20
0.15
0.10
0.05
0.00
เริ่ม
1
2
3
4
5
6
7
8
สัปดาหที่
9
10
11
12
13
14
15
16
จ. ปริมาณแอมโมเนียละลายน้ํา
รูปที่ 8 คุณภาพน้ําในบอดินที่เลี้ยงหอยหวานในกระชัง ที่ความหนาแนน 4 ระดับ เปนเวลา 16 สัปดาห
สรุปและวิจารณผล
1. การเจริญเติบโต
ผลการศึกษาครั้งนี้แสดงใหเห็นวาการเจริญเติบโตของหอยหวานทั้งดานความยาวและความกวางของเปลือก ทั้ง
4 ระดับของชุดการทดลองมีความแตกตางกันในสัปดาหที่ 16 อยางชัดเจน โดยมีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทั้ง 4
ระดับ (P <0.05) จากการสังเกตพบวาหอยที่เลี้ยงในกระชังในบอดินเปลือกมีลักษณะปอมกวาหอยที่เลี้ยงในน้ําไหลผาน
ตลอดเวลา สําหรับการเจริญเติบโตทางน้ําหนัก มีความคลายกันกับการเจริญเติบโตทางความยาวเปลือก โดยสัปดาหที่ 16
มีความแตกตางกันทางน้ําหนักอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (P < 0.05) ทั้งนี้เนื่องจากอัตราความหนาแนนตอพื้นที่ มีผลตอ
การเจริญเติบโต และจากการตรวจสอบ พบวา พื้นทรายที่ใชเลี้ยงมีสีดํา โดยเฉพาะในชวงสัปดาหที่ 8 ขึ้นไป หากทําความ
สะอาดทรายไมดีและน้ําไมถายเททําใหมีผลตอการเจริญเติบโตได เพราะหอยหวานกินอาหารโดยปลอยน้ํายอยมีลักษณะ
คลายเมือกมายอยสลายอาหาร แลวดูดกลับเขาไปหลังจากนั้นจะคลายเมือกออก เมือกจะติดอยูที่เทาหอยหวาน จําเปน
จะตองเดินไถไปบนพื้นทรายเพื่อใหเมือกออก และพบวาจะมีเมือกเปนแผนใสๆ บนพื้นทรายมาก และจากของเสียที่หอย
ขับ ถ ายออกมา เป น สาเหตุ ที่ทําใหพื้น ทรายดํา เร็ว ถ าทําความสะอาดไมดี พ อทํา ใหมี ผลตอ การเจริ ญ เติบ โต ผลการ
เจริญเติบโตของการทดลองครั้งนี้ทั้ง 4 ระดับความหนาแนน มีคาใกลเคียงกับรายงานของนิลนาจและอนุตร (2541) และ
230
ปริมาณไนไตรท (มก./ลิตร)
40
38
ความเค็ม (สวนในพัน)
40
ปริมาณฟอสเฟต (มก./ลิตร)
อุณหภูมิน้ํา (องศาเซลเซียส)
O19
การประชุมวิชาการประมง ประจําป 2548
O19
ธานินทร (2539) ที่เลี้ยงหอยหวานในระบบน้ําไหลผานตลอดและมีการถายน้ําทุกวันตลอดระยะเวลา 4 เดือนและผลการ
ทดลองเลี้ยงหอยหวานของนิพนธและลือชัย (2543) ที่ทดลองเลี้ยงหอยหวานในตะกราพลาสติก
2. อัตราการรอดตาย
อัตราการรอดตายของหอยหวานจากการทดลองทั้ง 4 ระดับ มีคาใกลเคียงกัน คือที่ความหนาแนน 300, 400, 500
และ 600 ตัวตอตารางเมตร มีอัตราการรอดตายเปน 99.69±0.13, 99.71±0.20, 99.95±0.08 และ 99.92±0.07 เปอรเซ็นต
ตามลําดับ และไมมีความแตกตางกัน (P > 0.05) ซึ่งสอดคลองกับการเลี้ยงหอยหวานในตะกราพลาสติกของลือชัยและ
เกียรติศักดิ์ (2547) ที่เลี้ยงในถังไฟเบอรกลาสกลมเสนผาศูนยกลาง 140 เซนติเมตร ชุดที่ 1 เลี้ยงที่อัตราความหนาแนนที่
300 ตัวตอตารางเมตรโดยไมใสตะกรา ชุดที่ 2 เลี้ยงที่อัตราความหนาแนนที่ 300 ตัวตอตารางเมตร ในตะกราพลาสติกพื้นที่
0.14 ตารางเมตร เลี้ยงหอย 42 ตัวตอตะกรา จํานวน 11 ใบ และชุดที่3 เลี้ยงที่มีอัตราความหนาแนนที่ 600 ตัวตอตารางเมตร
ในตะกราพลาสติกพื้นที่ 0.14 ตารางเมตร เลี้ยงหอย 42 ตัวตอตะกรา จํานวน 22 ใบ เทากับ 95.81±1.32, 93.79±3.14 และ
93.90±2.30 เปอรเซ็นต ตามลําดับ การทดลองเลี้ยงหอยหวานดวยเนื้อปลาและหอยแมลงภู ที่ความหนาแนน 500 ตัวตอ
ตารางเมตร ของนิพนธและลือชัย (2543) มีอัตราการรอดตายเฉลี่ยเทากับ 84.9, 83.6 เปอรเซ็นต การทดลองเลี้ยงหอยหวาน
ของธานินทร (2539) และนิตยสารสัตวน้ํา (2543) รายงานวา การใชเนื้อปลาขางเหลืองเลี้ยงหอยหวานมีอัตราการรอดตาย
สูงถึง 95 เปอรเซ็นต แตการทดลองในครั้งนี้ทั้ง 4 ระดับความหนาแนน มีอัตราการรอดตายสูงกวา
3. อัตราการเปลี่ยนอาหารเปนเนื้อ (FCR)
ผลการทดลองที่ความหนาแนน 300, 400, 500 และ600 ตัวตอตารางเมตร อัตราการเปลี่ยนอาหารเปนเนื้อมี
คาเฉลี่ย เทากับ 2.82±0.20, 2.64±0.22, 2.78±0.19 และ 2.85±0.15 ตามลําดับ และไมมีความแตกตางกัน (P > 0.05) ซึ่งผล
การทดลองครั้งนี้ไดคา FCR สูงวาการทดลองของนิพนธ และลือชัย (2543) ซึ่งใชเนื้อปลาเปนอาหาร และมีอัตราสวนการ
เปลี่ยนอาหารเปนเนื้อเทากับ 2.03 นิตยสารสัตวน้ํา (2543) รายงานวามี FCR เทากับ 2 และธานินทร (2539) ที่เลี้ยงลูกหอย
ดวยเนื้อปลาขางเหลืองมี FCR เทากับ 1.27 สวนผลการทดลองของลือชัย และเกียรติศักดิ์ (2547) ที่ไดทําการทดลองเลี้ยง
หอยหวานในถังไฟเบอรกลาสกลมเสนผาศูนยกลาง 140 เซนติเมตร ชุดที่ 1 เลี้ยงที่อัตราความหนาแนนที่ 300 ตัวตอตาราง
เมตรโดยไมใสตะกรา ชุดที่ 2 เลี้ยงที่อัตราความหนาแนนที่ 300 ตัวตอตารางเมตร ในตะกราพลาสติกพื้นที่ 0.14 ตาราง
เมตร เลี้ยงหอย 42 ตัวตอตะกรา จํานวน 11 ใบ และชุดที่3 เลี้ยงที่มีอัตราความหนาแนนที่ 600 ตัวตอตารางเมตร ในตะกรา
พลาสติกพื้นที่ 0.14 ตารางเมตร เลี้ยงหอย 42 ตัวตอตะกรา จํานวน 22 ใบ มีคา FCR เฉลี่ยเทากับ 2.96±0.26, 3.26±0.25
และ3.54±0.25 ตามลําดับ ซึ่งเปนผลที่สูงการการทดลองในครั้งนี้ เปนเพราะการเลี้ยงหอยหวานในตะกราพลาสติกมีพื้นที่
แคบกวา มีผลทําให FCR สูงกวาการเลี้ยงหอยหวานในถังที่ใสทราย ซึ่งมีลักษณะเดียวการเลี้ยงหอยหวานในกระชังในบอ
ดินที่มีพื้นที่เลี้ยงหอยมากกวาในตะกราพลาสติก
4. ผลผลิตและผลผลิตเพิ่ม
ผลผลิตรวมทั้ง 4 ชุดการทดลอง (ที่ระดับอัตราความหนาแนน 300, 400, 500, และ 600ตัว/ตารางเมตร) มีคาเฉลี่ย
2.74+0.12, 3.49+0.18, 3.85+0.18 และ4.33+0.14 กิโ ลกรัม ตามลําดั บ มีความแตกต างกันอยางมีนั ย สําคั ญ ทางสถิ ติ
(P < 0.05) ที่ทุกความหนาแนน ชุดทดลองที่มีอัตราความหนาแนนมากกวาผลผลิตจะสูงกวา เพราะจํานวนหอยมากกวา
ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นของชุดทดลองที่ อัตราความหนาแนน 300, 400, 500, และ 600ตัว/ตารางเมตร มีคาเฉลี่ยเปน
1.93+0.12, 2.42+ 0.18, 2.51 + 0.18 และ 2.66+0.18 กิโลกรัมตามลําดับ ซึ่งมีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ
(P < 0.05) โดยน้ําหนักเพิ่มที่ความหนาแนน 300 ตัว/ตารางเมตร กับอัตราความหนาแนนอื่นๆ สวนความหนาแนน 400 ,
500 ,และ 600ตัวตอตารางเมตร ไมมีความแตกตางกัน (P > 0.05) และจะเห็นไดวาที่ความหนาแนนสูงกวาผลผลิตที่เพิ่มขึ้น
จะสูงตามไปดวย ซึ่งสอดคลองกับการทดลองของลือชัยและเกียรติศักดิ์ (2547) ที่ไดทําการทดลองเลี้ยงหอยหวานใน
ถังไฟเบอร กลาสกลมดังกลาวมาแลวขางตน พบวาการทดลองในชุดที่ 3 มีผลผลิตรวมมากกวา ชุดทดลองที่ 1 และ 2
เนื่องจากมีจํานวนหอยหวานที่ปลอยลงเลี้ยงเปน 2 เทา ของอีก 2 ชุดการทดลอง
231
O19
การประชุมวิชาการประมง ประจําป 2548
5. คุณภาพน้ํา
คุณภาพน้ําในบอดินที่ใชเลี้ยงหอยหวานในกระชัง ตลอดระยะเวลา 16 สัปดาห มีคาความเค็มระหวาง 27 – 38 สวนในพัน
สวน เฉลี่ย 32.88+2.89 สวนในพันสวน ซึ่งนับมีคาความเค็มสูงกวาเกณฑปกติเมื่อเทียบกับการทดลองของ นิพนธและ
ลือชัย (2543) ที่ทําการทดลองเลี้ยงหอยหวานดวยเนื้อปลาและเนื้อหอยแมลงภู ในน้ําที่มีคาความเค็มระหวาง 21-27 สวน
ในพันสวน และผลการวิจัยของลือชัยและเกียรติศักดิ์ (2547) ที่เลี้ยงหอยหวานในตะกราพลาสติก ในน้ําที่มีคาความเค็ม
ระหวาง 23.33- 33.00 สวนในพันสวน สําหรับคาอุณหภูมิ ความขุนใส ปริมาณออกซิเจนละลายน้ําความเปนกรดดาง
ความเปนดาง ปริมาณแอมโมเนีย ปริมาณไนไตรท และปริมาณฟอสเฟต อยูในเกณฑปกติ
6. ตนทุนและผลตอบแทน
การเลี้ยงหอยหวานในกระชังในบอดิน ที่ความหนาแนน 4 ระดับ จํานวน 3 กระชัง มีตนทุนทั้งหมด คือ 6203.55,
6311.43, 6406.44 และ 6502.23 บาท เปนตนทุนคงที่ 4,875 บาท คิดเปนรอยละ 78.58, 77.24, 76.10 และ 74.97 ตนทุนผัน
แปร 1328.55, 1436.43, 1531.44 และ 1627.23 บาท คิดเปนรอยละ 21.42, 22.76, 23.90 และ 25.03 รายไดทั้งหมด 2877.00,
3402.75, 3465.00 และ 3572.25 บาท บาท คิดเปนกําไร 735.95, 1,150.82, 1,121.06 และ 1,132.52 บาท คิดเปนกําไรตอ
หนวยน้ําหนัก เทากับ 89.53, 109.92, 97.06 และ 87.18 บาทตอกิโลกรัม จากการศึกษาครั้งนี้พบวาการเลี้ยงหอยหวานที่
ความหนาแนน 400 ตัวตอตารางเมตรใหผลตอบแทนดีที่สุดซึ่งตนทุนและผลตอบแทนนี้ยังไมไดคิดคาขุดบอ คาปรับปรุง
บอ คาเชาที่ดิน คาเครื่องตีน้ํา เครื่องสูบน้ําแบบทอพญานาค ตลอดจนปริมาณอาหารที่ใหไมไดคิดคาการสูญเสียเนื่องจาก
เปนงานวิจัยจึงคิดเฉพาะปริมาณอาหารที่หอยกินเขาไปตามหลักวิชาการ
7. ขอเสนอแนะ
การเลี้ยงหอยหวานในกระชังในบอดินมีความเหมาะสมกับพื้นที่การเลี้ยงที่ใกลทะเล ที่มีพื้นดินเปนดินโคลน
อาจเลี้ยงผสมผสานกับการเลี้ยงหอยแครง ปลากะพงขาว และกุงทะเลได
จากการทดลองในครั้งนี้ พบวาการเลี้ยงหอยที่ความหนาแนน 300 ตัวตอตารางเมตร มีการเจริญเติบโตที่ดีกวา
สวนดานผลผลิตพบวาที่ความหนาแนน 600 ตัวตอตารางเมตรใหผลผลิตที่สูงกวา ในการเลี้ยงหอยหวานในกระชังในบอ
ดินเมื่อเริ่มปลอยหอยลงเลี้ยงควรปลอยหอยที่ความหนาแนนสูงกอน เมื่อเลี้ยงหอยไปประมาณ 2 เดือน จึงควรที่ทําการคัด
หอยที่มีขนาดใกลเคียงกันปลอยลงเลี้ยงในกระชังเดียวกัน ในอัตราความหนาแนน 400 ตัวตอตารางเมตร จะทําใหไดผล
ผลิตและผลตอบแทนดีที่สุด ดังนั้นการเลี้ยงหอยหวานในกระชังจึงมีความเปนไปได
เอกสารอางอิง
จรัญ จันทลักขณา. 2523. สถิติวิเคราะหและการวางแผนงานวิจัย. บริษัทวัฒนาพานิช จํากัด. 468 หนา.
ธานินทร สิงหะไกรวรรณ. 2539. การศึกษาชีววิทยาบางประการของหอยหวานในบอเลี้ยงเพื่อการผลิตพันธุสําหรับปลอย
ลงแหลงน้ําธรรมชาติ. เอกสารวิชาการฉบับที่ 57 ศูนยพัฒนาการประมงทะเลอาวไทยฝงตะวันออก กองประมง
ทะเล กรมประมง. 37 หนา.
นิพนธ ศิริพันธ และ ลือชัย ดรุณชู. 2543. การทดลองเลี้ยงหอยหวาน (Babylonia areolata Link, 1807). เอกสารวิชาการ
ฉบับที่ 52/2543 สถานีเพาะเลี้ยงสัตวน้ําชายฝงจังหวัดชลบุรี กองเพาะเลี้ยงสัตวน้ําชายฝง รวมกับสํานักวิชาการ
กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ. 29 หนา.
นิตยสารสัตวน้ํา. 2543. หอยหวานสัตวน้ําเศรษฐกิจตัวใหม. นิตยสารสัตวน้ํา 11 (125) : 122-125.
นิลนาจ ชัยธนาวิสุทธ และอนุตร กฤษณะพันธ. 2541. การวิจัยเพื่อศึกษาการเพาะเลี้ยงหอยหวาน (Babylonia areolata
Link, 1807) เชิงพาณิชย. รายงานการวิจัย สํานักงานคณะกรรมการวิจัยแหงชาติ. 38 หนา.
232
O19
การประชุมวิชาการประมง ประจําป 2548
ลือชัย ดรุณชู และเกียรติศักดิ์ เสนะวีณิน. 2547. การเลี้ยงหอยหวาน (Babylonia areolata Link, 1807) ในตะกราพลาสติก.
เอกสารวิชาการฉบับที่ 29/2547 ศูนยวิจัยและพัฒนาประมงชายฝงจันทบุรี สํานักวิจัยและพัฒนาประมงชายฝง
กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ. 21 หนา.
APHA, AWWA and WPCF. 1980. Standard Methods for the Examination of Water and Wastwater. 15th Edition
American Public Health Association, Washington, D.C. 1,134 pp.
Grasshoff, K. 1976. Methods of Sea Water Analysis. Verlog Chemic, New York. 314 pp.
Strickland, J. D. H. and T. R. Parsons. 1972. A Practical Handbook of Seawater Analysis. Bullitin 167 (second edition).
Fisheries Research Board of Canada. Ottawa. 284 pp.
ตารางผนวกที่ 1 น้ํ า หนั ก อาหารที่ ห อยหวานกิ น ระหว า งการเลี้ ย งในกระชั ง ในบ อ ดิ น ที่ ค วามหนาแน น 4 ระดั บ
(หนวย :- กิโลกรัม)
การทดลองซ้ําที่
ความหนาแนน
น้ําหนักอาหารเฉลี่ย
(ตัวตอตารางเมตร)
ซ้ําที่ 1
ซ้ําที่ 2
ซ้ําที่ 3
300
5.485
5.372
5.479
5.45±0.06
400
6.282
6.426
6.40
6.37±0.08
500
7.078
6.933
6.991
6.96±0.07
600
7.408
7.675
7.632
7.57±0.14
ตารางผนวกที่ 2 น้ําหนักเริ่มทดลอง สิ้นสุด และน้ําหนักเพิ่มขึ้นของหอยหวานที่เลี้ยงในกระชังในบอดิน ที่ความหนาแนน
4 ระดับ (หนวย :- กิโลกรัม)
ความหนาแนน
(ตัวตอตารางเมตร)
การทดลองซ้ําที่
ซ้ําที่ 1
ซ้ําที่ 2
น.น. เพิ่มขึน้
ซ้ําที่ 3
เฉลี่ย
เริ่มตน
สิ้นสุด เพิ่มขึ้น
เริ่มตน
สิ้นสุด
เพิ่มขึ้น
เริ่มตน
สิ้นสุด เพิ่มขึ้น
300
0.80
2.82
2.02
0.80
2.79
1.99
0.80
2.60
1.80
1.93±0.12a
400
1.07
3.54
2.47
1.07
3.29
2.22
1.07
3.64
2.57
2.42±0.18b
500
1.34
3.82
2.48
1.34
4.04
2.70
1.34
3.68
2.34
2.51±0.18b
600
1.61
4.13
2.52
1.61
4.47
2.86
1.61
4.20
2.59
2.66±0.18b
233
O19
การประชุมวิชาการประมง ประจําป 2548
ตารางผนวกที่ 3 คุณภาพน้ําในบอดินที่ทําการทดลองเลี้ยงหอยหวานในกระชัง ที่ความหนาแนน 4 ระดับ
ตัวชี้วัดคุณภาพน้ํา
การประชุมวิชาการประมง ประจําป 2548
สัปดาหที่ .
ความเค็ม
pH
Alkaline
แอมโมเนีย
ไนไตรท
ฟอสเฟต
ขุนใส
อุณหภูมิ
(ม.ก/ลิตร) (ม.ก/ลิตร)
(ม.ก/ลิตร)
(ม.ก/ลิตร)
(ม.ก/ลิตร)
(ซ.ม)
(๐C)
เริ่มทดลอง .
27
7.67
3.9
88
0.1218
0.0071
0.0000
110
28
สัปดาหที่ 1 .
30
7.34
5.8
76
0.0187
0.0041
0.0004
80
31
สัปดาหที่ 2 .
33
7.73
7.2
79
0.1011
0.0038
0.0013
130
27
สัปดาหที่ 3 .
33
7.69
7.3
86
0.0671
0.0028
0.0005
140
27
สัปดาหที่ 4 .
34
7.74
6.5
89
0.1527
0.0032
0.0006
130
32
สัปดาหที่ 5 .
35
7.70
6.5
95
0.0896
0.0047
0.0026
140
33
สัปดาหที่ 6 .
35
7.78
7.2
80
0.0542
0.0027
0.0029
120
32
สัปดาหที่ 7 .
35
8.01
6.5
80
0.0870
0.0025
0.0024
120
32
สัปดาหที่ 8 .
35
7.88
6.4
81
0.0952
0.0020
0.0025
130
33
สัปดาหที่ 9 .
36
7.89
6.5
82
0.0508
0.0038
0.0014
130
34
สัปดาหที่ 10
37
7.87
6.5
82
0.0208
0.0036
0.0044
70
34
สัปดาหที่ 11
38
7.91
6.9
87
0.0417
0.0006
0.0102
60
35
สัปดาหที่ 12
35
7.67
5.4
98
0.0139
0.0057
0.0056
50
32
234
O19
(สวนในพัน)
DO
234
O19
การประชุมวิชาการประมง ประจําป 2548
235
ตารางผนวกที่ 3 (ตอ)
สัปดาหที่ .
ความเค็ม
pH
(สวนในพัน)
DO
Alkaline
แอมโมเนีย
ไนไตรท
ฟอสเฟต
ขุนใส
อุณหภูมิ
(ม.ก/ลิตร)
(ม.ก/ลิตร)
(ม.ก/ลิตร)
(ม.ก/ลิตร)
(ม.ก/ลิตร)
(ซ.ม)
(๐C)
สัปดาหที่ 13
35
7.66
6.5
92
0.0242
0.0064
0.0029
60
36
สัปดาหที่ 14
32
7.70
6.5
95
0.0250
0.0074
0.0030
60
36
สัปดาหที่ 15
27
7.58
6.3
67
0.1067
0.0071
0.0151
40
28
สัปดาหที่ 16
22
7.20
8.0
43
0.4766
0.0078
0.0228
40
32
คาสูงสุด
38
8.0
8.0
98
0.4766
0.0078
0.0228
36
140
คาตําสุด
22
7.2
3.9
43
0.0139
0.0006
0
27
40
คาเฉลี่ย
32.88±2.89 7.71±0.20
การประชุมวิชาการประมง ประจําป 2548
ตัวชี้วัดคุณภาพน้ํา
6.46±0.88 82.35±12.79 0.0910±0.1074 0.0044±0.0021 0.0046±0.0061 31.88±2.89 94.71±37.93
ตารางผนวกที่ 4 ผลผลิต รายได ตนทุนทั้งหมด กําไร และกําไรตอน้ําหนัก ของการเลี้ยงหอยหวานในกระชังในบอดิน (รวม 3 กระชัง) เปนเวลา 4 เดือน
ความหนาแนน (ตัว/ตร.ม.)
ผลผลิต (ก.ก.)
ราคา (บาท)
รายไดทั้งหมด(บาท)
ตนทุนทั้งหมด (บาท)
กําไร (บาท)
กําไร/น้ําหนัก (บาท)
300
8.22
350
2877.00
2141.05
735.95
89.53
400
10.47
325
3402.75
2251.93
1150.82
109.92
500
11.55
300
3465.00
2343.94
1121.06
97.06
600
12.99
275
3572.25
2439.73
1132.52
87.18
O19
235
O19
การประชุมวิชาการประมง ประจําป 2548
ตารางผนวกที่ 5 รายละเอียดของตนทุนผันแปร คาพันธุหอย คาอาหาร (ปลาขางเหลือง) คาจางแรงงาน คาไฟฟาและน้ํามัน
เชื้อเพลิง และคาปูนขาวใชปรับคุณภาพน้ํา ในการเลี้ยงหอยหวานในกระชังในบอดิน (รวม 3 กระชัง) เปนเวลา 4 เดือน
ความหนาแนน
คาพันธหอย
คาอาหาร
คาจางแรงงาน
คาไฟฟาและ
คาปูนขาว
น้ํามันเชื้อเพลิง
ตัว/ตร.ม.
บาท รอยละ บาท รอยละ บาท รอยละ บาท รอยละ บาท รอยละ
300
216 16.26 212.55 16.00 500 37.64 300 22.58 100
7.53
400
288 20.05 248.43 17.29 500 34.81 300 20.89 100
6.96
500
360 23.51 271.44 17.72 500 32.65 300 19.59 100
6.53
600
432 26.55 295.23 18.14 500 30.73 300 18.44 100
6.15
236